top of page
ค้นหา

ผิว หย่อนคล้อย ริ้วรอยเหี่ยวย่น ผิวแห้ง ปัญหาผิวหน้า

อัปเดตเมื่อ 16 ธ.ค. 2564

ผิว หย่อนคล้อย ริ้วรอยเหี่ยวย่น ผิวแห้ง ปัญหาผิวหน้า

หลายคนประสบปัญหาอายุผิวหน้า เรามาเช็คสัญญาณเตือน ผิว หย่อนคล้อย ริ้วรอยเหี่ยวย่น ผิวแห้ง รูขุมขนกว้าง ปัญหาผิวหน้า ผิวที่ดูแก่กว่าอายุจริง เกิดปัญหาจากปัจจัยภายในร่างกายและภายนอกร่วม ซึ่งการดูแลผิวอย่างถูกวิธี จะช่วยลดปัญหาผิวแก่ก่อนวัยได้ มาเริ่มต้นรับมือกับปัญหาผิวแก่ โดยการเช็คสภาพผิวง่ายๆ จากสัญญาณเตือนที่ผิวฟ้อง ด้วยตัวเองกัน



ควรหันมาให้ความสำคัญกับการใช้เซรั่มเพราะเซรั่มมีลักษณะเด่นตรงที่มีส่วนผสมที่เข้มข้นเนื้อสัมผัสที่เบากว่าครีมเพราะมีขนาดโมเลกุลที่เล็กจึงเติมอาหารเข้าสู่ชั้นผิวได้อย่างล้ำลึก ทำให้ผิวหน้ามีความกระจ่างใสไร้ริ้วรอยฝ้ากระจุดด่างดำ อยากมีผิวแข็งแรงผิวสวยขึ้นต้องเพิ่มการ บำรุงผิว ด้วยเซรั่มเท่านั้นค่ะด้วยเนื้อสัมผัสที่บางเบาไม่ใช่แค่ไม่ทำให้เกิดสิวเท่านั้น แต่ทาแล้วไม่ทำให้หน้ามันปรับผิว ทำให้ริ้วรอยดูจางลงเพราะว่าเซรั่มซึมเข้าสู่ผิวอย่างรวดเร็วไม่ทิ้งความเหนอะหนะให้ผิวและเซรั่มมีหน้าที่กระตุ้นการสร้างความชุ่มชื้นให้สำหรับผิวที่ขาดน้ำสร้างสมดุลให้ผิวสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก


เช็ค 5 สัญญาณเตือน ปัญหาผิว
  • ผิวแห้งและหมองคล้ำ

คอลลาเจนเสื่อมถอยไปตามอายุที่มากขึ้นทำให้ผลิตไขมันได้น้อยลงผิวจึงเกิดอาการแห้งขาดน้ำและปัจจัยอื่น ๆ เช่นแสงแดดความเครียดการดื่มน้ำน้อยล้วน แต่เป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวแห้งและหมองคล้ำลง

  • รูขุมขนกว้าง

ผิวไม่เรียบเนียนปริมาณน้ำมันใต้ผิวที่คุมไม่ได้ผิวขาดความสมดุลของน้ำและปัญหาผิวจากกรรมพันธุ์เป็นสาเหตุให้รูขุมขนขยายกว้างขึ้นได้ส่งผลให้สภาพผิวภายนอกดูมัน แต่ใบหน้าเป็นริ้วรอยต่างๆผิวดูไม่เรียบเนียนอย่างเห็นได้ชัด

  • ผิวหย่อนคล้อย

ผิวหนังที่เคยสวยเต่งตึงกลับเริ่มอ่อนแอลงใบหน้าเริ่มสูญเสียสมดุลทำให้หางตาตกแก้มหย่อนคล้อยผิวหนังบริเวณลำคอไม่กระชับนับเป็นความกังวลใจของหลาย ๆ คนที่เกิดจากความเสื่อมของคอลลาเจนและอีลาสตินตามวัยริ้วรอยเหี่ยวย่นเกิดรอยใต้ผิวหนังเพราะกล้ามเนื้อใบหน้าเคลื่อนที่ไปในทิศทางเดิมซ้ำ ๆ เมื่อผิวหนังสูญเสียความยืดหยุ่นและไม่สามารถดึงตัวกลับเพราะอายุที่มากขึ้นร่องรอยดังกล่าวจึงปรากฏขึ้นอย่างถาวรให้เห็นเป็นเส้นบาง ๆ

  • ริ้วรอยเหี่ยวย่น

เกิดรอยใต้ผิวหนังเพราะกล้ามเนื้อใบหน้าเคลื่อนที่ไปในทิศทางเดิมซ้ำ ๆ เมื่อผิวหนังสูญเสียความยืดหยุ่นและไม่สามารถดึงตัวกลับเพราะอายุที่มากขึ้นร่องรอยดังกล่าวจึงปรากฏขึ้นอย่างถาวรให้เห็นเป็นเส้นบาง ๆ หรือเป็นร่องลึกบริเวณรอบดวงตาปากและลำคอ

  • ฝ้ากระจุดด่างดำ

ด้วยรังสี UV และความร้อนจากจอคอมพิวเตอร์การพักผ่อนน้อยหรือเครียดสะสมรบกวนเมลานีนบนใบหน้ากระตุ้นเม็ดสีผิวทำงานผิดปกติจนกระทั่งสะสมในเซลล์ผิวหนังทำให้ผิวหน้ามีรอยด่างดำเกิดเป็นฝ้าได้

ล้างหน้า VS ทาครีม

เคยได้ยืนกันใช่ไหมว่า การล้างหน้าให้ล้างตามแนวรูขุมจน ส่วนการทาครีมให้ทาย้อนแนวโพรงรูขุมขน การล้างหน้าของหลายๆคนชอบ ถูขึ้น-ลง บางคนถูวนทั่วใบหน้า แม้การล้างแบบนั้นจะสร้างก็จริงแต่ก็ไม่ได้ชะล้างสิ่งสกปรกที่อุดตันในรูขุมขนอย่างหมดจด แถวการถูวนยังเป็นตัวการของริ้วรอยด้วย มาดูวิธีการล้างหน้าและทาครีมแบบแบบถูกต้องกัน

1.ล้างหน้าตามแนวโพรงขน

จะช่วยให้ไม่เกิดสิว เพระาไม่ทำให้สิ่งสกปรกย้อนกลับเข้าไปในรูขุมขนแถมเป็นการถูล้างแบบทางเดียวจ ลดโอกาสการเกิดของริ้วรอย หลังจากชโลมใบหน้าด้วยน้ำแล้วบีบโฟมลงบนฝ่ามือถุให้เกิดฟองแล้วนำฟองมาแต้มบนใบหน้า 5 จุด หน้าผาก/แก้มทั้ง2ข้าม/จมูก/และคาง ต่อมาทำการถูล้างให้เป็นทางเดียวกันไม่ถูย้อนขึ้น โดยถูจากหน้าแก้มออกไปทางกรอบหน้าในทิศทางลงถูจมูกในแนวดิ่งจากหว่างคิ้วลงมาที่ปลายจมูกถูหน้าผากจากกึ่งกลางออกไปยังไรผมด้านข้างและถูคางจากใต้ริมฝีปากลงไปยังสุดปลายคาง สุดท้ายล้างน้ำออกโดยใช้ทิศทางเดียวกับตอนถูล้างด้วยโฟมจากนั้นซับใบหน้าเบา ๆ ให้แห้ง

2.ทาครีมย้อนแนวโพรงรูขุมขน

สาว ๆ หลายคนอาจจะสงสัยว่าแค่ทาครีมให้ผิวชุ่มชื้นแถมครีมที่ใช้ยังช่วยลดริ้วรอยได้ด้วยทำไมผิวยังมีริ้วรอยบาง ๆ อีกล่ะนั่นเพราะว่าทิศทางการทาครีมที่เราทำเป็นประจำอาจจะต้องค่ะ อาจจะทาแบบวนรอบผิวซึ่งนั่นเป็นวิธีการที่ผิดและอาจก่อให้เกิดริ้วรอยได้วิธีการทาครีมให้ถูกคือการทาย้อนผิวค่ะ

แต้มครีม 5 จุดทั่วใบหน้าคือแก้มทั้ง ข้างปลายจมูกปลายคางและหน้าผากเพื่อให้ทาครีมได้สม่ำเสมอทั่วทั้งหน้า ใช้นิ้วกลางและนิ้วนางเกลี่ยครีมจากกึ่งกลางออกไปยังด้านข้างโดยทาย้อนขึ้นเพื่อยกกระชับผิวหน้า อย่าถูไป-มาหรือถูวนไม่งั้นจะเกิดริ้วรอยให้ทาไปในทิศทางเดียวกันจนครีมซึมซาบสู่ผิวจนหมด ส่วนรอบดวงตาให้ใช้นิ้วนางค่อยๆไล้ครีมจากหางตาลงมายังใต้ตาไล่ไปยังหัวตาแล้วค่อยๆทาจากหัวตาไปยังเปลือกตาแล้วจบที่หางตา


การล้างหน้าผิดอยู่หรือไม่

1.ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น >> อาจจะง่ายสำหรับคนที่อาบน้ำอุ่นอยู่แล้วแต่อย่างไรก็ตามเราอยากให้หลีกเลี่ยงเพราะส่งผลเสียต่อผิวหลายประการ ไม่ได้ช่วยเปิดรูขุมขนให้ล้างหน้าสะอาดขึ้น แต่ทำให้หน้าแห้งตึงเกินไป ทำให้หน้าแห้งหยาบ และรูขุมขนกว้าง ถ้าล้างติดต่อกัน ในบางรายถ้าเป็นสิวอาจทำให้เกิดการอุดตันมากขึ้น ผิวอาจจะแห้งและลอก

- การล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น จะช่วยให้รูขุมขนขยายตัวได้ดี ช่วยให้เราทำความสะอาดผิวหน้าได้ดีขึ้น - สำหรับบางรายอาจทำให้รูขุมขนอุดตันได้ง่ายขึ้นเพราะสิ่งสกปรกเข้าไปในรูขุมขนที่เปิดได้ง่าย - ทำให้ผิวแห้งหยาบกร้าน เพราะผิวสูญเสียน้ำในผิวไปกับความร้อน - การล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นบ่อยๆทำให้รูขุมขนขยายตัว

หลีกเลี่ยงการล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นไม่ได้ หลังจากล้างหน้าแล้วก็ให้ใช้น้ำอุณหภูมิห้องหรือน้ำเย็นปิดท้ายให้รูขุมขนกระชัยตัวแล้วตามด้วยการใช้ครีมบำรุงผิวที่ให้ความชุ่มชื่นอย่างพอเหมาะ

2.ล้างหน้าบ่อยเกิน >> ทำให้หน้ามันกว่าเดิมและยังทำใหเกิดสิวตามมา ปัจจุบันก็ยังมีคนที่เข้าใจผิดเกี่ยวกับการล้างหน้าว่า ถ้ายิ่งเป็นสิว หรือหน้ามัน ก็ยิ่งต้องล้างหน้าบ่อยๆ และใช้เวลานานๆ ผิวหน้าจึงจะสะอาดหมดจด ไร้สิ่งสกปรกตกค้างบนผิว จากความเข้าใจผิดนี้ส่งผลร้ายต่อผิวอย่างคาดไม่ถึง เพราะความจริงแล้ว การล้างหน้านานๆ และล้างบ่อยเกินไป แทนที่จะเป็นจุดเริ่มต้นดีๆ ของการมีผิวสวย อาจกลับกลายเป็นสร้างความซวยให้ผิว ยังไม่สายเกินไปที่จะมาทำความเข้าใจใหม่ด้วยเหตุผลดีๆ ที่เราคัดสรรมาฝากเกี่ยวกับการล้างหน้าที่ถูกต้องเหมาะสม

- ล้างหน้าเช้า-เย็นพอ นอกเหนือจากนั้นหากจำเป็นจริงๆล้างน้ำเปล่าดีกว่า - ใช้สบู่อ่อนๆพอ หลีกเลี่ยงโฟมค่ะ พวกเซตาฟิล เจลล้างหน้าอ่อนๆที่ขายตามคลีนิค - สัญญานเตือนว่าคุณผิวแห้งขาดน้ำคืออาการคันยิบ สิวผดคล้ายๆสิวอุดตันแต่ไม่มีหัว ขึ้นเป็นเม็ดเล็กๆกระจายทั่วบริเวณที่คัน - หากใช้พวกBPก่อนล้างหน้า ให้ลดเวลาลงค่ะ ทิ้งไว้นานหน้าแห้งแสบเปล่าๆ - หากใช้ฟิมซับมันลองเปลี่ยมาใช้แบบกระดาษซับมันค่ะ เนื่องจากแบบฟิมซับมันได้ดีเกินไป หรือใช้ฟิมให้หน้าพอหายเหนี่ยว อย่าให้เกลี้ยงทุกรูขุมขนเลยค่ะ - บำรุงด้วยมอยเจอร์

3.ล้างหน้าทันทีหลังออกกำลังกาย >> หลังออกกำลังกายผิวกำลังขับของเสียออกมา รีบล้างหน้ารูขุมขนหดปล่อยของเสียยาก เพราะในเวลาที่เราออกกำลังกาย มีเหงื่อและไขมันถูกขับออกมาจากรูขุมขน ทำให้หน้ามันมาก ซึ่งแน่นอนทุกคนทราบว่าอาการหน้ามันทำให้เกิด สิว ได้ง่าย รีบไปล้างหน้าทันทีหลังจากเล่นกีฬาเสร็จ เพื่อขจัดความมันบนใบหน้า แต่ เชื่อหรือไม่ว่ามันอาจเป็นวิธีที่ผิด เพราะการล้างหน้าแบบนี้ อาจทำให้เกิด สิวได้

-ควรรอจนเหงื่อหยุดไหล เสียก่อน

-พักประมาณ 20 -30 นาที ให้ผิวหนังแห้ง

-รอร่างกายกลับสู่อุณหภูมิปกติ ค่อยล้างหน้า

-ทำการล้างหน้าด้วยสารทำความสะอาดที่อ่อนโอนต่อผิว

4.ล้างหน้าด้วยฝักบัว >> ฝักบัวแรงดันมากเกินไป ทำลายความมันที่มีประโยชน์บนใบหน้า ยิ่งผิวบอบบางจะยิ่งกระทบหน้า เอาฝักบัวทารดที่หน้าโดยตรง การที่เราเอาน้ำแรงๆมาล้างหน้าจะทำให้ผิวของเราระคายเคือง ใครที่ผิวแห้งรูขุมขนจะกว้างขึ้นด้วย การล้างหน้าด้วยฝักบัวยิ่งทำให้รูขุมขนกว้างกว่าเดิม เมื่อรูขุมขนกว้างกว่าเดิมผลให้ไขมันหรือสิ่งสกปรกไปอุดตันได้ง่าย ก่อให้เกิดสิวง่ายกว่าเดิม ใช้น้ำชะโลมล้างหน้าอย่างเบามือ

5.ใช้ผ้าเช็ดตัวซับหน้า >> ผ้าเช็ดตัวเป็นแหล่งเพราะเชื้ออย่างดี ควรหากระดาษมาซับหน้าแทน เราใช้เช็ดทำความสะอาดซับน้ำภายหลังการอาบน้ำทุกวันนั้น สามารถกักเก็บเชื้อโรคไว้ได้มากขนาดไหน ใช้ผ้าเช็ดตัวหลังการอาบน้ำ ซึ่งกว่าจะอาบน้ำเสร็จเราก็สะอาดใสปิ๊งแล้ว จะทำให้ผ้าเช็ดตัวสกปรกได้อย่างไร เราขอบอกเลยว่าคุณคิดผิดถนัด เพราะเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา เซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วก็ยังสามารถติดไปกับผ้าเช็ดตัวได้ แล้วยิ่งถ้าผ้าเช็ดตัวที่คุณใช้ตากในที่อับชื้น ไม่ได้รับแสงแดด เชื้อแบคทีเรียก็ยิ่งเจริญเติบโตได้ดี และอาจเข้าสู่ร่างกายผ่านบาดแผลบนตัวคุณได้ด้วย ให้ใช้ผ้าเช็ดหน้าแยกกับผ้าเช็ดตัว

การเช็ดหน้า

การถูหน้าแรงๆ >> การถูหน้างแรงทำให้ผิวถูกขีดข่วน ผิวหน้าอ่อนแอได้และเกิดริ้วรอยได้โดยไม่รู้ตัว ควรกระทำผิวหน้าอย่างเบามือเป็นการดีที่สุด

การถูหน้าวน >> การถูหน้าวนๆจะทำให้คราบสิ่งสกปรกวนกลับมาไปตกค้างในรูขุมขนเช่นเดิม แนะนำให้ล้าวหน้าตามแนวโพรงขนจะดีที่สุด

ปล่อยให้มันแห้ง >> หลังล้างหน้าควรซับน้ำให้แห้งทันที หากปล่อยให้น้ำระเหยเอง ผิวจะแห้งตึงเพราะความชุ่มชื้นของผิวจะหายไป

การถูหรือเช็ดหน้าแรง ๆ เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวได้ เพราะผิวที่เป็นสิวจะตอบสนองไว เมื่อโดนกระตุ้นบ่อย ๆ ก็จะทำให้สิวลุกลามไปมากขึ้นจนสิวอุดตันไม่ยอมหายสักที แถมการเช็ดหน้าแรง ๆ อยากทำให้เกิดสิวผดตามมาได้ด้วยค่ะ เพราะฉะนั้นใครที่เป็นสิวก็ไม่ควรทำอะไรรุนแรงกับผิวหน้าเด็ดขาด ใช้ผ้าเช็ดหน้าซับเอาน้ำออกอย่างนุ่มนวลก็พอค่ะ ที่สำคัญไม่ควรเอามือไปสัมผัสหน้าบ่อยๆนะคะ เพราะอาจจะเป็นการแพร่เชื้อสิวได้ค่ะ

โฟมล้างหน้าแบบไหนดีกับผิว
  • หน้าเอื๊ยด >> ทำลายสารเคลือบผิวตามธรรมชาติ สูญเสียความชุ่มชื้น หน้ามันเยิ้มมากกว่าเดิม ผิวผลิตน้ำมันออกมามากขึ้น สาเหตุของสิวอักเสบ

  • หน้าไม่เอี๊ยด >> ไม่ทำลายความมันตามธรรมชาติ คงความชุ่มชื้นให้ผิว คงความสมดุลของผิว ไม่ทำให้ผิวแห้งตึง ไม่สร้างความระคายเคืองให้แก่ผิว

ล้างหน้าที่ดี ไม่ควรจะล้างหน้าให้ผิวสะอาดเกินไป เพราะการที่ล้างหน้าจนผิวเอี๊ยดหลายๆคนคิดว่าผิวสะอาดแต่รู้ไหมว่า การที่ล้างจนผิวเอี๊ยดคือการล้างไขมันดีบนผิวหน้าออก >> ผลที่ตามมาคือ หน้าแห้ง ผิวขาดน้ำ ดังนั้นไม่อยากหน้าแห้งกร้านขาดสมดุลผิว พยายามเลี่ยงโฟมล้างหน้าที่ทำให้ผิวเอี๊ยดน้าาา


ใครก็อยากมีใบหน้าที่ดูเด็กกว่าวัยทั้งนั้น แต่หลายท่านอาจจะไม่ทราบว่าอาหารเมนูเด็ดที่หลาย ๆ ท่านโปรดปรานนั้นเป็นสาเหตุหนึ่งที่ เร่งหน้าแก่ก่อนวัยมาดูกันค่ะว่าเมนูไหนบ้างที่ควรจะเลี่ยงถ้าอยากมีผิวหน้าเด็ก

เมนูไหนบ้างที่ควรจะเลี่ยง

  • อาหารรสจัด

การทานอาหารรสเผ็ดจัดหวานจัดเค็มจัดหรือรสเปรี้ยวจี๊ดล้วนสร้างผลเสียทั้งนั้นค่ะเช่นอาหารรสหวานจัดทำให้เซลล์ผิวเสื่อมสภาพเหี่ยวย่น ขาดคอลลาเจนส่วนอาหารเค็มจัดทำให้ ผิวหนังแห้งกร้านเพราะร่างกายต้องดูดซับน้ำออกมามากกว่าปกตินั่นเองค่ะ

  • อาหารสำเร็จรูป

ส่วนมากมักผสมสารโซเดียมซัลไฟต์หรือวัตถุกันเสียไม่ว่าจะเป็นอาหารแปรรูปอาหารแช่แข็งอาหารกระป๋องรวมถึงบะหมี่สำเร็จรูปซึ่งสารเหล่านั้นจะไปกระตุ้นให้ผิวพรรณของเราเหี่ยวย่นและทิ้ง ริ้วรอยก่อนวัยอันควร

  • อาหารปิ้งย่าง

กรมอนามัยกระทรวงสาธารณสุขระบุว่าการทานอาหารปิ้งย่างเสี่ยงต่อการได้รับสารพีเอเอชที่ลอยขึ้นมาเกาะผิวอาหารก่อให้เกิด โรคมะเร็งได้และอาหารที่ไหม้เกรียมมีสารไฮโดรคาร์บอนซึ่งเป็นสารอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำและผิวไม่กระชับ

  • เครื่องดื่มคาเฟอีน

ไม่ว่าจะเป็นชากาแฟน้ำอัดลมเครื่องดื่มชูกำลังล้วนมีสารที่ทำให้ร่างกายตื่นตัวคือเอพิเนฟรีนหรืออะดรีนาลีน ทำให้ผิวหย่อนคล้อยและคาเฟอีนตัวร้ายจะดูดซับแร่ธาตุและวิตามินต่าง ๆ ออกจากร่างกายเราอีกด้วยค่ะ

  • เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

หากดื่มเป็นประจำระบบการทำงานของอวัยวะภายในจะทำงานหนักขึ้นหลายเท่าโดยเฉพาะ "ตับ" ที่ทำหน้าที่ขับของเสียออกจากร่างกายจึงส่งผลให้ร่างกายและใบหน้าของเรานั้นไม่สดใส หมองคล้ำและ เหี่ยวย่นนั่นเองค่ะ

  • น้ำหวานหรือของหวาน

การทานอาหารที่มีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบนั้นเมื่อน้ำตาลเข้าสู่ร่างกายจะเกิดกระบวนการที่เรียกว่า AGEs เข้าไป ทำลายเส้นใยคอลลาเจนที่มีหน้าที่รักษาความกระชับและความยืดหยุ่นของผิวหนังส่งผลให้ ผิวแห้ง หย่อนคล้อยและเกิดริ้วรอยตามมาค่ะ

ไม่อยากหน้าแก่ก่อนวัย หน้าโทรมอย่ามองข้ามการบำรุงรอบดวงตา หลังจากเราอาบน้ำหรือล้างหน้า เราควรรีบทาครีม บำรุงผิว ลงสกินแคร์ทันที ควรจะลงภายใน3นาที เพราะผิวหลังล้างหน้ากำลังกักเก็บน้ำได้ดี ถ้าเราปล่อยทิ้งไว้จะทำให้สูญเสียน้ำที่ผิวออกไป แต่ถ้าเราบำรุงภายใน3นาที ผิวก็จะสามารถกักเก็บความชุ่มชื่นเหล่านั้นได้



เป็นเรื่องยากใช่ไหมล่ะคะถ้าจะให้เลี่ยงเมนูโปรดทั้งหลายที่กล่าวไป แต่หากทุกท่านอยากมีผิวสวยและสุขภาพดีนั้นก็ต้องพยายามลดหรือเลี่ยงให้ได้มากที่สุดนะคะ

นี่จึงเป็นเหตุผลที่ผู้หญิงหลายคนที่รักในการดูแลตัวเอง หันมาดูแลผิวและ สิว ลดจางลง เติมคอลลาเจนทั้งดูแลของเดิมที่มีปัญหาอยู่แล้วและเติมเต็มไม่ให้ขาดหายไปเมื่ออายุเริ่มมากขึ้น

อ่านเพิ่มเติม ได้ที่ ผิว หย่อนคล้อย

ติดตามอ่านบทความดีๆ ได้ที่ beautymustknow.com

กันแดด กันดะ มีวางจำหน่ายแล้วทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลและเลือกซื้อสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : https://www.facebook.com/pg/kandabeauty.company/ website : Kandabeauty.com

 
 
 

Comments


  • facebook
  • linkedin

©2023 by Olivia Myers. Proudly created with Wix.com

bottom of page